วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รองหอฯแนะสสร.เร่งทำความเข้าใจประชาชน ติงม็อบอย่าป่วนประชาพิจารณ์ วอนเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่เหมาะสม


หลังจากมีการประชุม สสร.นัดสุดท้ายเพื่อลงมติรับหรือไม่รับ ร่างรธน.ปี 50 ซึ่งมติเป็นตามความคาดหมาย ซึ่งมีผู้มีสิทธิลงมติ 100 คน และมีผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ 98 คน ลงมติรับร่าง รธน.อย่างเป็นเอกฉันท์ 98 เสียงส่วนอีก 2 เสียงไม่อยู่ในที่ประชุม ท่ามกลางกระแสสังคมที่สับสน จากหลายประเด็นที่ ม็อบ PTV เคลื่อนไหวคัดค้านร่าง รธน.ฉบับนี้ รวมไปถึงองค์กรพระสงฆ์ที่อาจจะรวมตัวเคลื่อนไหวคว่ำบาตร รธน.ฉบับนี้ เพราะไม่พอใจที่ สสร.ไม่บรรจุศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
ทางด้านนายชวนะ เกียรติชวนะเสวี นักศึกษาปริญญาโท ธรรมศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองการปกครอง ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีนี้ว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบต่างในเวลานี้ ถือว่ายังตกเป็นประเด็นทางสังคมที่มีส่วนกระทบต่อกระบวนการทำประชาพิจารณ์อย่างแน่นอน ในส่วนการเคลื่อนไหวนั้นถ้ามองกันอย่างละเอียดก็จะทราบเป็นไปเพราะเหตุผลใด ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มม็อบที่มีการประกาศว่าจะรณรงค์ให้ประชาชนลงมติไม่รับร่าง รธน.ฉบับนี้ วึ่งแน่นอนว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้น่าจะมีผลต่อการลงประชามติของประชาชนที่ขาดความเข้าใจอย่างแน่นอน
นายชวนะ ยังกล่าวต่อไปว่า การเคลื่อนไหวของม็อบยังใช้กลวิธีทาง จิตวิทยาโดยการใช้สื่อให้เป็นประโยชน์และใช้ประเด็นตอบโต้ทางการเมืองโดยตลอด ทั้งยังชี้ให้ประชาชนเห็นในช่องโว่ของร่าง รธน.ฉบับนี้ในหลายมาตรา ซึ่งหากประชาชนขาดความใจอย่างถ่องแท้แล้วเชื่อว่าจะมีผลต่อการตัดสินใจเช่นกัน จึงอยากเห็น สสร.ใช้เวลาที่เหลืออยู่ เร่งทำความเข้าใจประชาชนในหลายแง่มุมที่ยังตกเป็นประเด็นในสังคมอยู่ในขณะนี้ ถึงที่มาที่ไปต่างๆและความมีเอกภาพในการยกร่างรธน.ฉบับนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลทั้ง 2 ด้าน และเหตุผลข้อเท็จจริงต่างๆ ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการตัดสินใจลงประชามติรับร่าง รธน.ต่อไป และยังมองว่าการเคลื่อนไหวใดๆในเวลานี้ของม็อบกลุ่มต่างๆ ไม่ส่งผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง ที่ต่อการคลี่คลายสถานการณ์ให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ถึงแม้ว่าการเลือกตั้งจะไม่ใช้ทางออกของปัญหาทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าการนำพาประเทศไปสู่ยุคมืดอีกครั้งทุกฝ่ายคงไม่อยากจะเห็นการใช้กำลัง และเกิดความวุ่นวายขึ้นเหมือนอย่างอดีตที่ผ่านมา วันนี้สิ่งเดียวที่จะนำพาประเทศไปสู่การก้าวเดินอย่างเสถียรภาพ คือความรัก สามัคคี ของคนในชาติบ้านเมือง ความคิดเห็นต่างๆที่ถูกมองว่าแตกต่างกัน แต่ทุกฝ่ายต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ทังนี้อยากเห็นความปรองดอง สมานฉันท์ เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ นำไปสู่การเลือกตั้ง คืนอำนาจสู่ประชาชน ให้ประชาธิปไตยของเรากลับมาเบ่งบานอีกครั้งหนึ่ง ประชาชนเท่านั้นคือผู้กำหนดอนาคตของเราทุก วันนี้เราไม่เพียงหันมองตัวเราเอง แต่เรากำลังถูกจับจ้องจากสายตาคนทั่วโลก ผมเชื่อว่าการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยจะทำให้ขบวนการต่างๆดำเนินไปตามขั้นตอนที่เหมาะสม และควรจะเป็น สำหรับการกำหนดวันนี้เลือกตั้งนั้นเชื่อว่าหลังจากมีการทำประชาพิจารณ์แล้วน่าจะมีคำตอบที่ดีกว่าปัจจุบันนี้ เพราะโดยส่วนตัวมองว่าไม่ควรที่จะเร่งให้เร็วเกินไปและไม่ควรให้ช้าเกินไป ทั้งนี้การกำหนดวันเลือกตั้ง จะต้องเป็นไปตาม รธน.กำหนด และเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดนายชวนะกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น